Brandy บรั่นดี คืออะไร ต้นกำเนิดมาจากไหน
Brandy ถือได้ว่าเป็นเหล้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเครื่องดื่มชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศในแถบอเมริกาใต้ รวมถึงประเทศในแถบยุโรปอย่างสเปน, อิตาลี และฝรั่งเศส รสชาติของบรั่นดีจะมีกลิ่นของผลไม้หรือ fruity และมีความหวานเจือปนเล็กน้อย นิยมเสิร์ฟพร้อมกับโซดาสำหรับใช้เป็นเครื่องดื่มหลังอาหารมื้อเย็น และในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเครื่องดื่มชนิดนี้กันให้มากขึ้นค่ะ
Brandy บรั่นดี คืออะไร มีต้นกำเนิดมาจากไหน
บรั่นดีเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักบ่มองุ่นรวมถึงผลไม้หลายชนิด ซึ่งคำว่า brandy จะใช้เป็นคำที่เรียกเครื่องดื่มที่มีวัตถุดิบจากองุ่น จากนั้นก็นำมาทำการเอจหรือหมักบ่มในถังไม้เพื่อให้มีสีและรสชาติที่ลุ่มลึกมากขึ้น โดยต้นกำเนิดของคำว่า brandy มาจากภาษาดัตช์คำว่า brandewijn ที่มีความหมายว่าไวน์ที่เผาไหม้ แต่ต้นกำเนิดของบรั่นดีที่แท้จริงนั้นมีหลักฐานที่ชี้ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้มีการกลั่นขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ. 1313 ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในขณะนั้นมีการเตรียมเครื่องดื่มชนิดนี้เพื่อใช้เป็นยารักษาโรค และด้วยรสชาติที่เข้มข้นบวกกับคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ แพทย์ในสมัยนั้นจึงเรียกว่า l’eau de vie หรือ the water of life
หลังจากนั้น Brandy ก็กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจากพ่อค้าชาวดัตช์ที่เดินทางค้าขายไปทั่วโลก โดยพวกเขาเริ่มคิดค้นวิธีการกลั่นไวน์เพื่อให้มีรสชาติที่เข้มข้นขึ้น และลดการเน่าเสียในระหว่างการเดินทาง ซึ่งก็ปรากฎว่ามันกลายเป็นเครื่องดื่มรสชาติดีที่เป็นที่ถูกอกถูกใจทุกคนที่ได้ลิ้มลองอย่างยิ่ง จากนั้นบรั่นดีก็ถูกผลิตขึ้นในหลายประเทศทั้งในฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมัน และออสเตรีย ร่วมกับช่วงเวลานั้นเป็นยุคแห่งการล่าอาณานิคม ผู้ล่าที่เดินทางไปทั่วทุกมุมโลกจึงนำพาเครื่องดื่มชนิดนี้ไปกับตัวด้วยจึงทำให้บรั่นดีกลายเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงทุกวันนี้
รสชาติของ brandy และปริมาณแอลกอฮอล์ที่พบ
brandy มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างสูงถึง 30% และบางยี่ห้ออาจมีแอลกอฮอล์สูงถึง 80% เลยทีเดียว หากแต่มีรสชาติที่ค่อนข้างหวานและมีกลิ่นหอมของผลไม้ โดยบรั่นดีแต่ละยี่ห้อจะมีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันอันเป็นผลมาจากพันธุ์องุ่นและประเภทของผลไม้ที่ใช้ในการหมักบ่มนั่นเอง
กรรมวิธีการผลิต brandy ทำได้อย่างไรบ้าง
ต้นกำเนิดของ brandy นั้นได้จากการหมักองุ่นและผลไม้หลายชนิดก่อนจะนำมากลั่นให้กลายเป็นบรั่นดี โดยสามารถแบ่งประเภทของเครื่องดื่มชนิดนี้ได้ออกเป็น 2 ประเภทจากวัตถุดิบผลไม้ที่ใช้ ซึ่งประกอบไปด้วย
-
Pome เป็นบรั่นดีที่มาจากการหมักจากผลไม้จำพวกแอปเปิลและลูกแพร์
-
Stone fruit เป็นบรั่นดีที่ได้จากการหมักผลไม้จำพวกพลัม, พีช, แอพริคอต และเชอร์รี่
ผลไม้ที่ใช้หมักกับองุ่นในกระบวนการผลิต brandy นั้นจะใช้ยีสต์เป็นตัวนำในการเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นนำมาทำการหมักบ่มในถังไม้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี และบรั่นดีบางยี่ห้อจะมีการหมักบ่มเป็นเวลานานถึง 30 ปี เพื่อให้ได้บรั่นดีที่มีสีอำพันสวยงาม ทั้งยังมาพร้อมรสชาติที่ยอดเยี่ยม เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการหมักบ่มแล้วก็จะนำมาผสมกับน้ำก่อนจะบรรจุขวดเพื่อจำหน่ายต่อไป
Brandy ประเภทที่ได้รับความนิยมที่สุด พร้อมแหล่งที่มาแตกต่างกัน
เครื่องดื่มประเภท brandy นั้นจะมีประเภทที่แตกต่างกันหลากหลาย โดยที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมก็คือ Cognac ที่ได้ชื่อว่าเป็นบรั่นดีที่ดีที่สุด ผลิตมาจากแคว้น Cognac ที่อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส มีรสชาติที่พิเศษและซับซ้อน ได้ความรู้สึกของผลไม้และดอกไม้ ส่วนบรั่นดีที่ได้รับความนิยมอีกประเภทหนึ่งก็คือ เชอรี่บรั่นดี หรือ Brandy de Jerez จากสเปนที่ได้ชื่อว่าเป็นบรั่นดีคลาสสิคที่มีกระบวนการผลิตคล้ายกับไวน์เชอรี่หวานโดยใช้องุ่นสายพันธุ์เดียวกับการผลิต Cognac ซึ่งก็คือพันธุ์ Airén และ Palomino ที่มีความ acidity สูง ก่อนจะนำมาหมักบ่มเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีบรั่นดีจากรัฐ New Jersy ในสหรัฐอเมริกาซึ่งก็คือ Applejack รวมถึงบรั่นดีจากชิลีและเปรูที่มีชื่อว่า Pisco ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างมากเช่นเดียวกัน
จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะเห็นว่า brandy นั้นเป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน และแต่ละประเทศที่เป็นผู้ผลิตก็มีการใช้เทคนิคและสูตรลับเฉพาะที่แตกต่างกันทำให้ได้บรั่นดีหลายประเภท ที่สามารถเลือกดื่มให้ตรงกับรสนิยมและความชอบของแต่ละบุคคลได้