Gin คืออะไร มีวิธีดื่มอย่างไร พร้อมสรรพคุณเพื่อสุขภาพที่น่ารู้ !
Gin หรือ ยิน เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก อีกทั้งยังมีกระบวนการผลิตที่แตกต่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ เพราะไม่ต้องทำการบ่มเป็นระยะเวลานาน แถมยังได้รับความนิยมจากคนทุกระดับ โดยมีตั้งแต่เกรด D ไปจนถึงเกรด A ถ้าจะพูดภาษาบ้านๆ คือ เหล้าขาว ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นเอง
Gin คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง?
Gin คือเครื่องดื่มสุราชนิดหนึ่งที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในชื่อของเหล้าขาว โดยแนวคิดในการผลิต Gin ขึ้นมานั้นก็คือ เป็นสุราสำหรับรักษาโรค เพราะมีสรรพคุณในการขับปัสสาวะและบำรุงร่างกาย มีส่วนผสมของผลจูนิเปอร์เป็นหลัก ถูกคิดค้นโดยนักแปรธาตุและนักบวชในแถบยุโรปด้วยการกลั่นวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น องุ่น หรือธัญพืชต่างๆ เป็นต้น จากนั้นเริ่มมีการแพร่หลายเข้าไปยังประเทศอังกฤษมากยิ่งขึ้นโดยเจนิเฟอร์ ในภาพลักษณ์ของสุราที่สามารถรักษาโรคได้จนกลายเป็นอุตสาหกรรมพาณิชย์อีกรูปแบบหนึ่ง
ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ได้รับกระแสความนิยมมากขึ้นอีกหนึ่งระดับ หลังจากที่เกิดการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า การปฏิวัติปี ค.ศ. 1688 จนกระทั่งเกิดการจำกัดการนำเข้าสุราบรั่นดีในประเทศยุโรปในเวลาต่อมา แต่ในขณะนั้นผู้คนเริ่มรู้จักกระบวนการทำจนเกิดเครื่องดื่มชนิดนี้อีกหลากหลายยี่ห้อในเวลาต่อมา โดยจะมีเอกลักษณ์และรสชาติที่โดดเด่นตามภูมิภาคของตนเอง
ซึ่งสิ่งที่เรากล่าวมานั้นก็คือ ประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกและมีหลักฐานชัดเจน แต่หลายคนได้กล่าวว่าแท้จริงแล้ว Gin ถือกำเนิดมาตั้งแต่ช่วง 3,000 ปีก่อน หรือในยุคอียิปต์ โดยผู้คนในยุคนั้นได้นำผลจูนิเปอร์ผสมกับสุราเพื่อขับปัสสาวะให้กับผู้ป่วยที่ป่วยเป็นกาฬโลก เนื่องจากมีความเข้าใจว่าการขับของเสียออกจากร่างกายจึงช่วยรักษาโรคได้ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าแท้จริงแล้ว Gin เกิดขึ้นครั้งแรกที่ใดกันแน่
หากดื่ม Gin คู่กับบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่เลว ช่วยเติมเต็มการลิ้มรสชาติไปกับบรรยากาศได้อีกแบบ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้านั้นจะมีนิโคติน และทำให้เกิดความมึนเมาด้วยเล็กน้อย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควบคู่กันได้อย่างลงตัว
เจาะลึกที่มารสชาติของ Gin หรือ เหล้าขาว
Gin คือสุราที่ถูกกลั่นจากธัญพืชหลากหลายชนิด โดยจะมีความแตกต่างกันตามพื้นที่นั้นๆ ถือว่าเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ที่มาจากธรรมชาติ โดยส่วนมากจะผสมกับผลจูนิเปอร์ น้ำมันหอมระเหย หรือสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม และตามกฎหมายได้กำหนดว่าต้องมีแอลกอฮอล์ไม่น้อยกว่า 40 ดีกรี โดยกระบวนการผลิตจะมีหลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
1.การผลิตแบบดั้งเดิมหรือแบบดัทช์
จะทำโดยการหมักธัญพืชหลากหลายชนิดเข้าด้วยกัน จากนั้นจะทำการกลั่นในหม้อต้มเพื่อให้ได้แอลกอฮอล์ที่มีลักษณะใส ปิดท้ายด้วยการหล่อเย็นและบรรจุขวดจนกลายเป็น Gin ที่มีเอกลักษณ์และกลิ่นเฉพาะตัว โดยการผลิตในรูปแบบดั้งเดิมนี้จำเป็นต้องมีผลจูนิเปอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งเป็นผลเบอร์รี่ที่หายาก เพราะออกผลแค่ปีละครั้งเท่านั้น
2.การผลิตแบบยุคใหม่
เนื่องจากผลจูปิเตอร์นั้นหายากมากในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนเริ่มหาสิ่งอื่นมาแทนที่เพื่อให้ได้รสสัมผัสและกลิ่นที่ใกล้เคียงแบบดั้งเดิมมากที่สุด โดยในแถบประเทศอังกฤษเริ่มมีการใช้น้ำมันจากต้นสนเข้ามาเจือปน เพราะให้สัมผัสที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ ยังมีการใช้หัวเชื้อจากธรรมชาติที่หลากหลายตามภูมิภาค เพื่อให้ได้รสชาติของ Gin ตามแบบฉบับดั้งเดิมอีกด้วย
Gin ดื่มอย่างไร กินกับแกล้มอะไรแล้วเข้ากันที่สุด?
โดยส่วนมากผู้คนมักจะลิ้มรสของ Gin แบบเพียวๆ โดยไม่ทำการผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ เนื่องจากจะได้รสสัมผัสที่เข้มข้นและหอมกลิ่นสมุนไพรที่อบอวลมากกว่า ในส่วนของการกินเพื่อให้ได้อรรถรสที่ดียิ่งขึ้นนั้น ควรเสิร์ฟในแก้วที่ปริมาณไม่เกิน 50 มิลลิลิตร ก่อนการดื่มแนะนำให้นำไปแช่เย็นเพื่อจะทำให้ได้รสชาติที่ดีและดื่มง่ายมากขึ้น หรือบางคนอาจจะผสมกับผลไม้ที่ชอบ เช่น ส้ม กีวี่หรือเบอร์รี่ เพื่อสร้างลูกเล่นให้กับเครื่องดื่มชนิดนี้มากขึ้นนั่นเอง ส่วนอาหารที่นิยมทานคู่กับ Gin คือ อาหารจานหลักประเภทผัดหรือต้ม เพราะจะช่วยเสริมรสชาติอาหารให้โดดเด่น แต่ไม่แนะนำให้ดื่มคู่กับผักหรือขนมปังอบกรอบ เพราะไม่เข้ากันแต่อย่างใด
เป็นอย่างไรกันบ้างหลังจากที่เราพาไปทำความรู้จักกับ Gin เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความเก่าแก่อีกชนิดหนึ่งบนโลก อีกทั้งยังสามารถบำรุงร่างกาย และมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะได้ ซึ่งในปัจจุบันมีการผลิตเครื่องดื่มชนิดนี้ขายหลากหลายยี่ห้อทั้งแบบต้นตำรับและแบบผสม โดยจะมีราคาที่แตกต่างกันตามความพิถีพิถัน ดังนั้น ลองเลือกสุรานี้เป็นแก้วโปรดในงานปาร์ตี้ของคุณดูสิคะ รับรองจะติดใจอย่างแน่นอน
ที่มา ; https://liqinfo.com/09/gin-